เสียง : ไทย + ENG

ฮิตแมน นักฆ่า น่าหลอก Hit Man (2023)

ในที่สุด ก็มาถึงการกลับมาของผู้กำกับที่ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดชนะรางวัล TIFF People’s Choice Award ระหว่างทางที่จะคว้ารางวัลออสการ์ Taika Waititi ผู้เขียน/ผู้กำกับ “Jojo Rabbit” ถ่ายทำ “Next Goal Wins” ของเขาจริงๆ ในปี 2019 แต่การควบรวมกิจการระหว่าง Fox และ Disney พร้อมด้วยการถ่ายทำใหม่และความล่าช้าทั่วไป นำไปสู่การฉายรอบปฐมทัศน์ที่ TIFF สี่ปีต่อมา Waititi อาจจะหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการปล่อยตัวอย่างเงียบ ๆ เมื่อสองสามปีก่อน และทุกคนก็สามารถย้ายไปที่เรื่องอื่นได้ เนื่องจาก “Next Goal Wins” เป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำอย่างลึกซึ้งเมื่อไม่ได้ขี้เกียจหรือน่ารังเกียจ เป็นภาพยนตร์ที่อยากให้มีทั้งสองทาง ทั้งเรื่องราวด้านกีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจและเรื่องราวของชายผู้เรียนรู้ว่าชัยชนะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็มุ่งมั่นที่จะทำทั้งสองอย่าง โดยอาศัยฐานแฟนๆ ของ Waititi มากเกินไปที่จะหัวเราะกับมุกตลกที่เขาเคยเล่ามาก่อน .

Michael Fassbender รับบทเป็น Thomas Rongen ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวดัตช์-อเมริกันที่มีนิสัยเหมือน Bobby Knight ในวัยหนุ่ม การระเบิดอันน่าทึ่งของเขาทำให้เขาถูกสับออกไปร่วมทีมในอเมริกันซามัว ซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดจากการแพ้เกมฟุตบอลโลกให้กับออสเตรเลียด้วยสกอร์สุดท้าย 31-0 ซึ่งเป็นอัตรากำไรที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ FIFA รอนเกนต้องต่อสู้กับความขัดแย้งทางวัฒนธรรมบนเกาะที่มีประชากรต่ำกว่า 50,000 คน ในขณะที่เขาพยายามเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฟุตบอลโลกปี 2014 และด้วยความ “พร้อม” ฉันหมายถึงพวกเขาหวังว่าจะทำประตูได้ในครั้งนี้

มีเรื่องราวที่ดีกว่าฝังอยู่ใน “Next Goal Wins” ในการเดินทางของ Jaiyah (Kaimana) สมาชิกของชุมชนที่รู้จักกันในชื่อ fa’afafine เธอกลายเป็นบุคคลข้ามเพศและบุคคลข้ามเพศคนแรกที่เปิดเผยอย่างเปิดเผยที่ได้เล่นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก—นั่นล่ะหนังของคุณ! เหตุใดเราจึงควรสนใจโค้ชที่ขมขื่นอีกคนบนโลก ในเมื่อมีเรื่องราวของความกล้าหาญและการเป็นตัวแทนซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นแผนรองในการเดินทางของเขา เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดมากจนเมื่อ Rongen ตายโดยตั้งชื่อ Jaiyah มันก็ถูกทำให้ราบรื่นเกินไปด้วยการยักไหล่ว่า “เขาเป็นโค้ชที่แข็งแกร่งจากประเทศอื่น” มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกที่ไก่มานะจะเก่ง สามารถแสดงผลงานที่ดีที่สุดในหนังที่ควรจะเกี่ยวกับเธอได้อย่างง่ายดาย

ฮิตแมน นักฆ่า น่าหลอก Hit Man (2023)

แน่นอนว่ามันเป็นหน้าที่ของคนโง่ที่จะตัดสินภาพยนตร์จากสิ่งที่ควรเป็นแทนที่จะเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ แต่การเลือกที่จะให้ Rongen เป็นศูนย์กลางจะให้อภัยได้มากกว่าหากไม่ได้บอกอย่างตรงไปตรงมาและไม่สอดคล้องกันในข้อความ มีสองวิธีในการบอกเล่าเรื่องราวของ Rongen ได้แก่ การเล่าเรื่องเกี่ยวกับกีฬาที่ตกอับเกี่ยวกับคนนอกที่ได้รับความมั่นใจด้านกีฬาจากทีมของเขา หรือทหารผ่านศึกผู้ขมขื่นที่เรียนรู้ว่าชีวิตบนเกาะเป็นมากกว่าการทำประตูในสนาม “การชนะเป้าหมายถัดไป” ไม่ได้ทุ่มเทพลังงานเพียงพอให้กับทั้งสองอย่าง โดยหันกลับไปสนใจเรื่องตลก “ท้องถิ่นแปลกๆ” แทนที่จะปล่อยให้เราทำความรู้จักกับคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ ในขณะนี้ ขณะที่เรื่องตลกดำเนินไปอย่างรวดเร็ว Waititi เห็นได้ชัดว่าจับจังหวะของการ์ตูนได้ มีภาพยนตร์ที่แย่กว่านั้นมากที่ TIFF ในปีนี้ในแง่ของความบันเทิงล้วนๆ แม้ว่ามันจะดูโบราณก็ตาม แต่เมื่อเกมนี้จบลง คนๆ หนึ่งก็ตระหนักได้ว่า ทีมนี้จะไม่ไปไหน